เชฟฟิลด์ยูไนเต็ดไม่หมู! 5 หลักสำคัญ หงส์แดง เยี่ยม ดาบคู่

หงส์แดง มีคิวที่จะต้องเดินทางไปเยี่ยม เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดหมาย 7 วันเสาร์ที่ 21 ก.ย.นี้ โดยพวกเขาอยากได้ที่จะทำผลงานให้เหมาะสมที่สุดเพื่อคว้า 3 คะแนนสำคัญและก็รักษาระยะห่างจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขั้นต่ำ 5 คะแนน (แต่ว่าบางทีอาจจะมากยิ่งกว่าหรือน้อยกว่า)
แน่ๆว่าเกมเมื่อกึ่งกลางอาทิตย์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เจอร์เก้น คล็อปป์ เลือกจัดกลุ่มชุดประสมประสานในแมตช์คาราบาว คัพ รวมทั้งนักฟุตบอลทุกคนก็ทำผลงานได้อย่างดียิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาดาวรุ่งที่ได้รับจังหวะคราวนี้ไม่ทำให้ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหน้าเปื้อนยิ้ม จำเป็นต้องผิดหวัง ถึงกระนั้นในแมตช์สำคัญพวกเขาคงจะจำต้องหลบทางให้พวกพี่ใหญ่ได้ลงสู่สนามอย่างเดิม

ช่วงเวลาเดียวกัน "ดาบคู่" ก็ไม่ใช่สมันน้อยอย่างที่บรรดาเกจิอาจารย์ต่างสบประมาท โอเคถ้ามองตามเนื้อผ้าฟอร์มการเล่นแล้วก็ขุมกำลังนั้นเจ้าของบ้านด้อยกว่า แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 6 ยุคหลายขุม แม้กระนั้นอย่าลืมว่าพวกเขาเคยหักปากกาเซียนด้วยการไล่ตีเสมอ เชลซี แล้วก็ตี เอฟเวอร์ตัน มาแล้ว แทงบอลออนไลน์เว็บไหนดี2019

1. "ดาบคู่" ไม่หมูครับผม

เมื่อฤดูกาลก่อนหน้าที่ผ่านมา หงส์แดง จำเป็นต้องผิดหวังเมื่อโดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครอบครองแชมป์พรีเมียร์ลีก ไปถือครองโดยมีแต้มเหลือกตาว่าเพียงแต่ 1 คะแนนแค่นั้น สำหรับฤดู 2019/20 พวกเขาเริ่มฤดูด้วยผลงานที่น่าประทับใจ ด้วยการเก็บชัย 6 เกมในลีกเรียบวุธ

แน่ๆว่าบทเรียนจากฤดูกาลที่แล้วทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ แล้วก็สมาชิกจำฝังใจว่าจะไม่ยินยอมพลาดทำคะแนนหลุดมือไม่ว่าจะพบกับคู่แข่งขันที่มีขนาดเล็ก หรือใหญ่ ซึ่งโน่นก็เลยเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ "เดอะ เร้ดส์" มีแต้มนำห่าง "เรือใบสีฟ้า" ถึง 5 คะแนน และก็พวกเขาจำเป็นต้องเพียรพยายามรักษาระยะห่างแบบงี้ถัดไป (หรือให้ห่างมากกว่านี้)

ในเวลาที่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในช่วงเวลานี้รั้งชั้น 10 พร้อมด้วยสถิติชนะ 2 เกม, เสมอ 2 รวมทั้งแพ้ 2 แมตช์ แน่ๆว่าผลงานของพวกเขาก็นับว่าไม่ธรรมดา ถ้าหากมองดูในฐานะสมาชิกใหม่นับได้ว่าเป็นฟอร์มการเล่นที่ค่อนข้างจะน่าประทับใจสำหรับในการปะทะกับกลุ่มเขี้ยวตันในลีกสูงสุด

ที่สำคัญกองทัพ "ดาบคู่" ส่งผลงานไม่ธรรมดาเมื่อพบกับกลุ่มใหญ่อย่างในแมตช์เยี่ยม เชลซี ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ พวกเขาโดนเจ้าของบ้านนำ 2-0 แต่ว่าสู้ไม่ถอยจนตราบเท่าตีเสมอได้เสร็จ สิ่งเดียวกันในเกมเยี่ยม เอฟเวอร์ตัน งานนี้ เชฟฯ ยูฯ โชว์ดุอัน "ลูกกวาดสีน้ำเงิน" คาถิ่นกูดิสัน พาร์ค 0-2

โอเคถึงแม้การเล่นใน บรามอลล์ เลน พวกเขาบางครั้งก็อาจจะจะต้องพบกับปัญหาอยู่พอควร แถมจะต้องเจอกับ หงส์แดง ที่ฟอร์มเร่าร้อนอย่างมาก แต่งานนี้ถ้าเกิดกลุ่มของผู้จัดการทีมเจอร์เก้น คล็อปป์ ราวๆได้โอกาสที่จะทำสกอร์หลุดมือราวกับที่ เชลซี รวมทั้ง เอฟเวอร์ตัน บ่งบอกถึงไปแล้ว

2. ความตั้งใจจริงจาก "เดอะ เร้ดส์"

ผลงานของ หงส์แดง ในตอนนี้จำเป็นต้องเห็นด้วยว่ารุนแรงยากจะต่อต้านได้จริงๆรวมทั้งดูเหมือนกับว่ามีเพียง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แค่นั้นที่จะเป็นคู่ประมือของพวกเขาที่มองสมน้ำสมเนื้อที่สุด เหตุเพราะส่งผลงานรวมทั้งสไตล์การเล่นที่ดุเด็ดเผ็ดมันเสมอกัน

คล็อปป์ เคยออกมาเปิดใจแล้วว่าช่วงนี้ไม่มีอะไรที่เซอร์ไพรส์สำหรับแคแรกเตอร์ รวมทั้งความเป็นจริงเป็นจังทุ่มเทของสมาชิกของตัวเองอีกต่อไปแล้ว ด้วยชัย 15 เกมรวด (นับผลงานเมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาด้วย) ทำให้ขณะนี้ หงส์แดง ได้สร้างประวัติศาสตร์ในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว


นอกเหนือจากนั้นพวกเขายังเปลี่ยนเป็นกลุ่มแรกในพรีเมียร์ลีกที่เก็บความมีชัย 6 เกมแรกเป็นฤดูลำดับที่สองต่อเนื่องกัน โดยปัจจุบันก็จัดแจงดับซ่าเด็กคะนองเดชของ เชลซี ถึงถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ จากผลงานชั้นยอดเยี่ยมของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่

ช่วงเวลาเดียวกัน ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวเยอรมัน ก็พึ่งจะได้ของขวัญชิ้นโตก็เป็นรางวัลผู้จัดการทีมฟุตบอลเหมาะสมที่สุดที่ปี 2019 ของสมาคมสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างชาติ โน่นยิ่งเป็นการซ้ำเติมให้มองเห็นแล้วว่าเขาได้สร้างแคแรกเตอร์นักสู้ให้กับกองทัพ "ลิเวอร์พูล" จนกระทั่งถึงตอนนี้เปลี่ยนเป็นชมรมที่ทุกครั้งมจำเป็นต้องรู้สึกเคารพนับถือ

3. ข้อคิดเห็นผู้จัดการทีม

สำหรับเกมนี้หากแม้ผู้คนจำนวนมากบางครั้งอาจจะชูให้ หงส์แดง ดีกว่าหลายขุมด้วยชื่อชั้น ผลงานการบรรลุผล รวมทั้งขุมกำลัง เหนือกว่าเจ้าของบ้านสูงมากมาย แม้กระนั้นขึ้นชื่อว่าลูกกลมๆแถมเป็นเกมในลีกอังกฤษ ย่อมไม่ได้เป็นอะไรที่ง่ายดายที่จะเก็บชัย ดังนั้นเหตุอีกข้อที่สำคัญก็คือผู้จัดการทีมฟุตบอล อีกทั้งประเด็นการวางแท็คติก และก็การกระตุ้นนักฟุตบอล

คริส วิลเดอร์ นายใหญ่เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แสดงความชำนาญที่น่าดึงดูดมากมายๆเพื่อเป็นการกระตุ้นผู้ร่วมทีมให้ฮึกเหิมและไม่หวั่นเกรงแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษ 18 ยุค "การจำเป็นต้องเจอกับแชมป์ยุโรป (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) ในบ้านยอดเยี่ยมในโปรแกรมที่พวกเราเฝ้าคอยมาตลอด"

"ผมต้องการให้สมาชิกของผมสู้เต็มกำลังราวกับที่พวกเราเคยทำมาตลอดในช่วงฤดูกาลนี้ แต่ว่าสำหรับผม นี่เป็นรางวัลสำหรับสมาพันธ์ แล้วก็แฟนบอลซึ่งเฝ้าติดตามชมรมของพวกเขาไม่ว่าเป็นช่วงๆที่มีทั้งยังดีรวมทั้งร้าย นี่เป็นความท้าที่นานสำหรับโปรแกรมการแข่งขันชิงชัยอย่างนี้" วิลเดอร์ กำหนด

ในช่วงเวลาที่ คล็อปป์ พูดว่า "พวกเราต้องการเดินทางไปเชฟฟิลด์ และก็ทำให้ชีวิตของพวกเราไม่ค่อยสบายเท่าไรนัก บางครั้งบางคราวพวกเราถูกเห็นว่าเป็นกลุ่มนำ แม้กระนั้นพวกเรายังมิได้เล่นเช่นเดียวกับยอดกลุ่มเลย ผมไม่เห็นเหตุผลที่ว่าเพราะเหตุไรถึงดีกว่า เชฟฟิลด์ (ยูไนเต็ด) โดยยิ่งไปกว่านั้นจำเป็นต้องมาเล่นในสนามของพวกเขา"

4. สถิติหงส์ดีแต่เยี่ยม "ดาบคู่" เมื่อยล้า

สำหรับณ เวลานี้ผลงานของ หงส์แดง เหนือกว่ามากมายเมื่อพวกเขาเก็บความมีชัยในลีกได้ถึง 55 เกม, เสมอ 22 เกม ในเวลาที่ เชฟฯยูฯ ทำเป็นเพียงแต่ชนะ 37 เกมแค่นั้น โดยพวกเขาไม่ได้ปะทะฝีเกือกกันอีกเลยตั้งแต่แมื่อปี 2007 ซึ่งแมตช์นั้น สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ ซามี ฮูเปีย และก็ตามด้วย ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ซัดเบิ้ลช่วย "ลิเวอร์พูล" ผลาญยับสกอร์ 4-0 ที่แอนฟิลด์ (ฤดู 2006/07 นัดหมาย 2)

เวลาเดียวกันในเกมที่ได้เจอกันปัจจุบัน หงส์แดง เยี่ยมบรามอลล์ เลน แล้วก็ผลที่เกิดขึ้นจากการแข่งขันจบลงที่เท่ากัน 1-1 (ฤดู 2006/07 ครั้งแรก) สำหรับฤดู 2019/20 กองทัพ "ดาบคู่" ได้ก้าวขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีอีกรอบ แล้วก็พวกเขาก็มุ่งหวังที่จะลบล้างความเจ็บด้วยการพยายามขัดขวาง "ลิเวอร์พูล" สำหรับการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก หนแรกในรอบ 3 ทศวรรษ

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็เป็น หงส์แดง ชอบทำผลงานไม่ค่อยดีนักสำหรับการเยี่ยมบรามอลล์ เลน ในเกมพรีเมียร์ลีก เพราะเหตุว่าพวกเขาสะกดคำว่า "ชนะ" ไม่ตรงเวลาที่ดวลกับเจ้าของบ้าน โดยการเจอกัน 3 แมตช์ผลสรุปก็คือแขกทำเป็นเพียงแต่เสมอ 2 และก็แพ้ 1 เกม แถมยิงได้ประตูเดียวเพียงแค่นั้น

5. กลุ่มเก่งลงเต็มสูบ

เกมปัจจุบันในศึกคาราบาว คัพ ที่ชนะ มิลตัน คีย์น ดอนส์ สมาคมระดับ ลีก วัน 2-0 คล็อปป์จัดกลุ่มประสมประสานโดยให้นักฟุตบอลสำรองชุดใหญ่ได้ลงเคาะสนิทร่วมกับบรรดาลำแข้งดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง คี-ยาน่า ฮูแฟร์, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, เคอร์ติส โจนส์ ,รีอาน บรูว์สเตอร์ และก็ ควีวีน เคลเลเฮอร์ ซึ่งทั้งปวงผลงานสะดุดตาเป็นสง่า

แม้กระนั้นในเกมลีกแน่ๆว่า ที่ปรึกษาจอมยิ้มเลือดด๊อยท์ช อยากได้ผลของการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม ก็เลยควรต้องใช้ผู้เล่นชุดใหญ่ที่ดีเยี่ยมที่สุด แม้กระนั้นพวกเขายังขาด อลีสซง เบ็คเกอร์ นายทวารกลุ่มชาติบราซิล ที่อยู่ในชื่งฟื้นฟูร่างกาย และก็คงจะกลับมาเฝ้าเสาได้ในตุลาคม

ช่วงเวลาเดียวกัน ซาดิโอ มาเน่ ที่มีปัญหาเจ็บขาจนถึงจำเป็นต้องโดนสลับตัวในเกมกับ เชลซี คาดว่าคงจะฟิตพร้อมในแมตช์วันเสาร์นี้ ส่วน นาบี เกอิต้า ซึ่งเพิ่งจะได้ลงเล่นในเกมเมื่อกึ่งกลางอาทิตย์ ก็คงจะได้มีความเกี่ยวข้องกับแมตช์นี้ แต่ว่าบางครั้งก็อาจจะนั่งเป็นตัวสำรองไปก่อน

ด้วยเหตุดังกล่าว 11 ตัวจริงของ "ลิเวอร์พูล" ที่คาดว่า คล็อปป์ จะส่งตัวลงเล่นเช่น อาเดรียน, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โฌแอล มาติป, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, ซาดิโอ มาเน่, โม ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่